ปกหนังสือ'ราชันเร้นลับ'ของจีน เวอร์ชั่นเก่า ที่มา : Web Novel | Lord of the Mysteries Wiki | Fandom
พล็อต
'ราชันเร้นลับ' บอกเล่าเรื่องเล่าของโจวหมิงรุ่ยที่ถูกส่งไปยังต่างโลกในยุควิคตอเรียที่มีพลังเหนือธรรมชาติ เขาตื่นขึ้นในร่างไคลน์ โมเร็ตติที่พึ่งจะยิงขมับตัวเองตายไป และต้องไปพัวพันกับโลกเหนือธรรมชาติเพื่อหาทางกลับโลกเดิม
เนื้อหา สำนวน การดำเนินเรื่อง
เนื้อเรื่องจะเป็นการตามติดชีวิตของไคลน์ โมเร็ตติ พระเอกของเรื่องที่ไปพัวพันกับโลกเหนือธรรมชาติและพยายามไขว่คว้าพลังเหล่านั้นเพื่อหาทางกลับโลกเดิม
สำนวนการเขียนจัดว่าดี แต่หลายคนอาจจะไม่ชินกับการใช้สรรพนามว่า'มัน' และการไม่มีเครื่องหมายบอกความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างความคิดตัวละครและบทบรรยาย แต่นอกจากนี้ สำนวนก็อ่านง่ายและเพลินมากทีเดียว
เซ็ตติ้งอยู่ในโลกแฟนตาซียุควิคตอเรียช่วงต้นยุคไอน้ำ (ไม่มีปืนกล) คนธรรมดาไม่รู้ถึงการมีอยู่ของพลังเหนือธรรมชาติ มีเทพเจ้าที่ตอบสนองคำวิงวอนของสาวกและแสดงปาฏิหารย์
ดำเนินเรื่องเป็นเส้นตรง พระเอกพยายามเก่งขึ้นตามสไตล์นิยายแฟนตาซีทั่วไป แต่เรื่องราวมีปม มีเงื่อนงำ คนเขียนชอบทิ้งข้อมูลหว่านๆเอาไว้ แล้วก็ตู้ม เฉลยว่ามันสำคัญกว่าที่คิด หลังจากผ่านช่วงworld buildingที่ค่อนข้างน่าเบื่อแล้วก็จะไปได้ยาวๆ
ปัจจุบันจบเรื่องแล้ว ผู้เขียนตั้งใจจะเขียนสามเล่มจบ(ไตรภาค) เล่มสองกำลังอยู่ในขั้นตอนวางโครงเรื่อง
เนื้อเรื่อง (สปอยล์แหลกแบบ300%)
ภาคหนึ่ง ตัวตลก
ในเช้าของวันที่28 มกราคม 1349 ไคลน์ โมเร็ตติยิงตัวตายและทิ้งข้อความไว้ในไดอะรี่ว่า 'ทุกคนต้องตาย รวมถึงฉัน' ขณะเดียวกัน โจวหมิงรุ่ย ก็ได้ประกอบพิธีกรรมเสริมดวงชะตา และถูกส่งมาเข้าร่างของไคลน์ แต่ความทรงจำของไคลน์ที่โจวหมิงรุ่ยไดรับนั้นไม่สมบูรณ์ หลังพยายามกลับโลกเดิมด้วยการประกอบพิธีกรรมเสริมดวงชะตาอีกครั้ง จิตของไคลน์(จากนี้จะขอเรียกพระเอกว่าไคลน์)ก็ถูกส่งไปยังสถานที่ประหลาดที่ไคลน์เรียกมันว่า'มิติสายหมอกเทา'และเผลอดึงจิตของอัลเจอร์ วิลสัน และ ออเดร์ย ฮอลล์ ขึ้นมาด้วย ไคลน์เล่นละครแสดงตัวเองเป็นตัวตนยิ่งใหญ่ที่ใช้ชื่อว่า'เดอะฟูล'และก่อตั้ง'ชุมนุมไพ่ทาโร่ต์'ขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและวัตถุดิบวิเศษ
มิติเหนือสายหมอกเทา
'เดอะฟูลที่มาจากต่างยุคสมัย,
ผู้ปกครองลึกลับเหนือสายหมอกเทา,
ราชันย์เหลืองดำผู้ครองพลังโชคลาภ'
เนื่องจาก'สมุดบันทึกอันทีโกนัส'สมบัติวิเศษที่ไคลน์คนก่อนได้มาโดยบังเอิญ ไคลน์จึงได้เข้าร่วมกับองกรณ์ผู้วิเศษ'เหยี่ยวราตรี' และกลายเป็นผู้วิเศษ(Beyonder)เส้นทางนักทำนาย ด้วยข้อมูลจากไดอารี่ของจักพรรดิ์โรซาย ผู้เดินทางข้ามโลกที่มาก่อนไคลน์ ไคลน์จึงเลื่อนลำดับอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นลำดับแปด ตัวตลก ได้ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนครึ่ง ทั้งที่คนอื่นต้องใช้เวลาเลื่อนจากลำดับเก้าไปแปดกันอย่างน้อยสามปี
ไคลน์ยังได้พบว่าอาจารย์มหาลัยของเขา อะซิก เอกเกอร์ เป็นผู้วิเศษลำดับสูงแห่งเส้นทางมรณาที่จะตายและฟื้นคืนชีพทุกๆ60ปีและสูญเสียความทรงจำทุกครั้งด้วยสาเหตุบางอย่าง ไคลน์ตกลงจะช่วยอะซิกตามหาความทรงจำ
อมรณา
ตลอดเวลาที่อยู่ในองกรณ์เหยี่ยวราตรี ไคลน์ได้พบเรื่องบังเอิญมากมายจนถึงขั้นที่ผิดปกติ แม้ไคลน์จะเอะใจในที่สุด แต่มันก็สายเกินไป อินซ์ แซงวิล ผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังทุกอย่างได้ใช้สมบัติวิเศษรหัส0-08 ชักนำให้ทายาท'พระผู้สร้างแท้จริง'เข้าโจมตีเหยี่ยวราตรี ไคลน์และหัวหน้าของไคลน์ ดันน์ สมิท สละชีวิตเพื่อสังหารทายาทพระผู้สร้างแท้จริงและปกป้องชีวิตนับหมื่นในเมืองทินเก็นไว้ได้ ส่วนอินซ์ แซงวิลก็ได้สิ่งที่ต้องการ และเลื่อนเป็นลำดับสี่ ผู้พิทักษ์ราตรี ได้สำเร็จ
'พวกเราปกป้องทินเก็นไว้ได้'
ไคลน์ฟื้นคืนชีพได้อย่างน่าพิศวง หลังบอกลาครอบครัว ไคลน์ก็เดินทางไปยังเบ็คลันด์ มหานครแห่งความหวัง เมืองหลวงแห่งเมืองหลวง เพื่อหาทางแข็งแกร่งขึ้น และสาบานว่าจะแก้แค้นอินซ์ แซงวิล
'สุดยอดพี่ชาย
สุดยอดน้องชาย
สุดยอดเพื่อนร่วมงาน'
'ต่อหน้าโชคชะตา ตัวตลกทำได้เพียงฝืนยิ้มเพื่อปิดบังความเศร้า ความเจ็บปวด สับสน และจิตตก'
ภาคสอง ผู้ไร้หน้า
นักสืบเชอร์ล็อค มอริอาตี้
หลังมาถึงเบ็คลันด์ ไคลน์เปลี่ยนตัวตนเป็นนักสืบเอกชนนามว่า 'เชอร์ล็อค มอริอาตี้' เขาได้เข้าไปพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างหน่วยข่าวกรองของอาณาจักรอินทิสและหน่วยพิเศษของโลเอ็น ไคลน์จ้างชารอน มาเป็นบอดี้การ์ดและสังหารโรซาโก้ และได้รับสูตรโอสถลำดับ7-5จากการสื่่่่อวิญญานโรซาโก้
วิญญานอาฆาต ชารอน
หลังจากนั้นไม่นาน ไคลน์ค้นพบว่า ลาเนวุส หนึ่งในศัตรูเก่ากำลังจะกลายเป็นพาชนะให้เทพมารลงมาจุติบนโลก ไคลน์ให้ออเดรย์ ฮอลล์แจ้งโบสถ์หลักและฉวยโอกาสสังหารลาเนวุสและย่อยโอสถตัวตลกได้สำเร็จ แต่ก็เป็นการบอกให้ทางการรู้ว่ามีองกรณ์ลับที่ชื่อว่าชุมนุมไพ่ทาโร่ต์เกิดขึ้น
ไคลน์เลื่อนเป็นลำดับเจ็ด นักมายากล และขโมยสมบัติวิเศษทรงพลัง 'ไพ่เย้ยเทพจักรพรรดิมืด'ได้สำเร็จ จากนั้นก็ฆ่าพ่อค้ามนุษย์คาพิมด้วยร่างวิญญานพร้อมกับได้ฉายาว่า'จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด'และย่อยโอสถนักมายากลได้สมบูรณ์
จอมโจรวีรบุรุษจักรพรรดิมืด
หลังกลายเป็นลำดับหก ผู้ไร้หน้า ไคลน์พบว่าตัวเองเข้าไปพัวพันกับแผนของอินซ์ แซงวิลอีกครั้ง ไคลน์สั่งให้ออเดรย์แจ้งโบสถ์รัตติกาลว่าเทพมาร'แม่มดบรรพกาล'กำลังจะลืมตาตื่น ไคลน์ขัดขวางการลงมาจุติของพระผู้สร้างแท้จริงเป็นครั้งที่สาม และหนีรอดจากเงื้อมมือของสาวกของท่าน มิสเตอร์A ได้อย่างทุลักทุเลด้วยความช่วยเหลือจาก'0-17'พาชนะของเทพจารีต เทพีรัตติกาล
'สาวกอันซื่อสัตย์ของท่าน ขอวิงวอนให้ท่านลงมาจุติ ตัวข้าขอสละร่างกายเป็นภาชนะเพื่อบรรจุปณิธานอันยิ่งใหญ่ของท่าน!'
ขณะเดียวกันท่านหญิงสิ้นหวังก็ได้แผ่หมอกควันเชื้อโรคไปทั่วมหานครเบ็คลันด์ คร่าชีวิตไปกว่า21,000ชีวิต ไคลน์สัญนิธฐานว่านี่คงเป็นแผนการใหญ่ที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่างกองทัพและราชวงค์
เหยื่อของโศกขนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์
ภาคสาม นักเดินทาง
ไคลน์เปลี่ยนตัวตนเป็นนักผจญภัยเสียสตินามว่า เกอร์มัน สแปร์โรว และตีตั๋วเดินทางไปยังเมืองแห่งการให้บายัม ไคลน์ได้พบกับสรั่งเรือลำดับสี่ของพลเรือโทธารน้ำแข็ง เดนิส โดยบังเอิญและจับอีกฝ่ายไว้เป็นตัวประกัน ระหว่างทาง พวกเขาได้ผ่านท่าเรือแบนซีที่ประเพณีดั้งเดิมได้ถูกรื้อฟื้นพอดี ประชาชนที่นั่นส่วนใหญ่คลั่งและถูกกัดกร่อน เกอร์มัน สแปร์โรวได้วาดลวดลายการต่อสู้ให้เดนิสได้เห็นจนอีกฝ่ายกลัวหัวหด
นักผจญภัยเสียสติ เกอร์มัน สแปร์โรว
ไคลน์และเดนิสไปยังฐานของฝ่ายต่อต้านบนบายัมเพื่อหาซื้อสมบัติวิเศษ เมื่อไคลน์สัมผัสดาบกระดูก เทพสมุทรคาเวทูว่าก็พยายามยึดร่างไคลน์แต่ล้มเหลว ไคลน์แจ้งเรื่องนี้แก่โบสถ์วายุสลาตันและทำให้เทพสมุทรถูกฆ่า ไคลน์ได้คฑาเทพสมุทรจากศพคาเวทูว่าและกลายเป็นเทพสมุทรตนใหม่
หลังฆ่าสรั่งเรือลำดับสามของพลเรือโทแห่งโรคภัย ชื่อของนักผจญภัยเสียสติก็เป็นที่รู้จักในหมู่เกาะรอสต์
ไคลน์ถูกจ้างให้นำ'ลูกเต๋าความน่าจะเป็น'ไปส่งที่เกาะโอราวี ที่นั่น เขาถุกจ้างให้ปลอมตัวเป็นนายพลอะมิรุสเป็นเวลาสามวัน แต่นี่เป็นแผนของ'เทพพฤษาแห่งแรงกระหาย'ที่พยายามควบคุมไคลน์ ภรรยาน้อยของอมิรุสถูกหลอกใช้และทำให้กลายพันธ์ และถูกไคลน์สังหารลงในที่สุด
'ข้าเพียงอยากมีทายาทกับท่าน ท่านนายพล...'
ไคลน์ขอให้สมาชิกใหม่ของชุมนุมไพ่ทาโร่ต์ พลเรือเอกแห่งดวงดาว แคทลีย่า พาเขาไปยังทะเลเขตซากสมรภูมิแห่งเทพเพื่อหานางเงือก ระหว่างทาง ไคลน์ได้พบแฟรงค์ ลี แบรนาแด็ท กุสตาฟ และเอนเดอร์สัน ก่อนจะเลื่อนลำดับเป็นลำดับ5นักเชิดหุ่นในที่สุด
หลังจากนั้น ไคลน์ได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือจากเดนิส ความว่า กัปตันของเขาเอ็ดวิน่าได้หายตัวไป ไคลน์ค้นพบว่าเะอถูกดูดเข้าไปในหนังสือโบราณที่มีชื่อว่า'การเดินทางของกรอซาย' ไคลน์ เดนิส และแอนเดอสันตามเข้าไป และหลังสังหารบอสมังกรน้ำแข็ง ยูลิสเซี่ยน ทั้งหมดก็ถูกปล่อยออกมาจากหนังสือพร้อมกับคนที่ถุกขังอยู่ก่อนหน้า แต่คนอื่นๆก็ตายทันทีที่ออกมาเพราะอยุ่ในหนังสือนานเกินไป
การเดินทางของกรอซาย
'เทพพฤษาแห่งแรงกระหาย'พบร่องรอยของไคลน์อีกครั้งและส่งเทวทูต'เทพหายนะ'ซัวอามาตามล่าไคลน์ ไคลน์สร้างความวุ่นวายด้วยการเรียกมรณาเทียม นักบุญเร้นลับ และผู้ส่งสารมาเพื่อสร้างโอกาสหนี และได้อะซิกมาช่วยไว้ได้ในที่สุด
ภาคสี่ อมรณา
ไคลน์กลับไปยังเบ็คลันด์ด้วยตัวตน ดอน ดันเตส เศรษฐีผู้หลีกหนีจากเลือดและเหล็กของสงคราม เขาพยายามหาโอกาสขโมยสมุดบันทึกอันทีโกนัส
ไคลน์แอบแทรกซึมเข้าไปในโบสถ์และถูก0-17เนรเทศไปยังหมู่บ้านหมอก เขาฆ่ามิสเตอร์A พบกับส่วนหนึ่งของซาราธและถูกหลอกให้ช่วยซาราธ และหนีออกมาได้ในที่สุด
อะซิกและไคลน์เดินทางไปยังภูมิภาคใต้ ขึ้นเรือของพลเรือเอกขุมนรกเพื่อเอาแหวนที่เกี่ยวข้องกับมรณา อะซิกถูกดึงดูดไปยังส่วนลึกของทะเลคลั่ง เทพมรณาพยายามจะฟื้นคืนชีพผ่านอะซิก แต่เทพีรัตติกาลจุติลงมาและขัดขวาง พร้อมกับทำลายคำสาปของอะซิก แต่ก็ทำให้อะซิกต้องหลับไหลเป็นเวลานานเพื่อฟื้นฟู
อินซ์ แซงวิลเองก็เดินทางมาที่ภูมิภาคใต้เพื่อกำจัดวิญญานมารเทวทูตสีชาดที่สิงร่างเขาอยู่ ด้วยความช่วยเหลือของราชาเทวทูตอาดัม ไคลน์และเพื่อนร่วมงานเก่า ดาลี่ย์และเลียวนาร์ดก็สามารถฆ่าอินซ์ แซงวิลและแก้แค้นได้สำเร็จ ดาลี่ย์ตายในการต่อสู้ และไคลน์ก็เลื่อนเป็นลำดับสี่ จอมเวทย์พิศดาร
'ฉันพลาดมาตลอด ไม่เคยทำอะไรทันสักอย่าง แต่วันนี้ ฉันจะไม่ทำผิดซ้ำสอง…'
'หัวหน้าก็ชอบคุณ แต่คุณเก่งกาจเกินไป... งดงามเกินไป... เขาคิดไปเองว่าตัวเองไม่คู่ควร'
'พวกเราคือผู้พิทักษ์ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นพวกน่าสมเพช ต้องคอยรับมือกับความบ้าคลั่งของโลกใบนี้ตลอดเวลา'
ไคลน์กลับมายังเบ็คลันด์ด้วยตัวตนดอน ดันเตส เขาเบนความสนใจไปที่เบื้องหลังของเหตุโศกขนาฏกรรมมหาหมอกควันแห่งเบ็คลันด์
ภายใต้พรแห่งการปกปิดของอาร์คบิชอปแห่งโบสถ์รัตติกาล แอเรียนนา ไคลน์ฆ่าโจนาส โคเกอร์ และเฮอวิน แรมบิสส์ และได้รู้ถึงแผนของราชาเทวทูตแห่งจินตนาการอาดัมและราชวงศ์ แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรต่อ จักรวรรดิฟุซัคก็เปิดศึกกับอาณาจักรโลเอ็น
ด้วยข้อมูลจากวิญญานมารเทวทูตสีชาด ไคลน์ได้รู้ว่าราชาองค์ปัจจุบัน จอร์จ ออกัสตัสที่สาม ต้องการเลื่อนลำดับเป็นลำดับ0 จักรพรรดิมืด เถลิงขึ้นสู่บัลลังค์แห่งเทพ
พิธีกรรมสู่บัลลังค์เทพ
ไคลน์เดินทางไปยังเกาะร้างในทะเลคลั่งเพื่อดื่มโอสถและเลื่อนเป็นลำดับสาม ปราชญ์โบราณ ระหว่างนี้ ปราสาทเซฟิร็อท(มิติสายหมอกเทา)ปรากฏขึ้นบนโลกจริง อามุนด์(ราชาเทวทูตแห่งกาลเวลา) พาลีส(เทวทูตลำดับสอง ม้าโทรจันแห่งโชคชะตา) และเทพพฤษาแห่งแรงกระหายได้จ้องมองมายังปราสาทนี้
จอร์จที่สามใช้การปราศัยในช่วงเวลาสงครามในการประกอบพิธีสู่ความเป็นเทพ ไคลน์เข้าไปในหลุมศพเพื่อทำลายพิธี เฮอเมส(เทวทูตลำดับสอง ผู้เห็นแจ้ง)ซาราธ(เทวทูตลำดับหนึ่ง บริกรเร้นลับ) ซัวอา และคนอื่นๆตามมาเพื่อหยุดยั้งไคลน์ ไคลน์เรียกผู้ส่งสารและภาพฉายประวัติศาสตร์ของกงสุลมรณะ อะซิก ออกมาช่วย แบรนาแด็ท กุสตาฟใช้ตะเกียงปราถนาทำให้ตัวเองมีพลังเทียบเท่าลำดับหนึ่ง จักรพรรดิความรู้เป็นเวลาหนึ่งวันและเข้าต่อสู้กับวิลเลี่ยม ออกัสตัสที่1 ทริสซี่ใช้ยันต์'วันวานอีกครา'เพื่อฟื้นสภาพแหวนของแม่มดบรรพกาล และยอมเป็นร่างภาชนะให้'ท่าน'ลงมาจุติ
ภาชนะแห่งความมืดอันโสมม ร่างจุติของแม่มดบรรพกาล
สุดท้าย ด้วยความวุ่นวายจากการปะทะระหว่างเทวทูต หลุมศพถูกทำลาย จอร์จที่สามล้มเหลวและคลุ้มคลั่ง เขาตายลงในหลุมศพที่ถูกทำลายโดยเทพวายุสลาตัน
ศึกแห่งเทวทูต
ภาคหก ผู้ไคว่หาแสงสว่าง
อามุนด์จับตัวไคลน์และพยายามเกลี้ยกล่อยให้ไคลน์ยอมให้เขาขโมยโชคชะตาของไคลน์แต่โดยดี ระหว่างที่ถูกพาไปยังดินแดนเทพทอดทิ้ง ไคลน์ได้รู้ว่าพ่อของอามุนด์ เทพสุริยันบรรพกาล เคยเป็นมนุษย์ธรรมดามาก่อนเช่นเดียวกับไคลน์
ดินแดนเทพทอดทิ้ง
ระหว่างพยายามหนีจากอามุนด์ ทั้งสองได้ไปยังสถานที่ที่ถูกเรียกว่า'เชอร์โนบิล' และทำให้ไคลน์ได้ตระหนักว่าเขาไม่ได้'เดินทางข้ามโลก' และที่แห่งนี้ก็คือโลกที่เขาเคยใช้ชีวิตในฐานะโจวหมิงรุ่ย
หลังฆ่าตัวตายและฟื้นคืนชีพ ไคลน์ก็หนีรอดจากอามุนด์มาได้
ส่วนที่เหลือโฟกัสไปที่การผจญภัยของไคลน์ในดินแดนเทพทอดทิ้ง ไคลน์ฝ่าฟันอุปสรรคจนมาถึงพระราชวังคนยักษ์ หลังจากสังหารเทวทูตมืด ประตูสู่โลกภายนอกก็ได้เปิดออก และแสงสว่างก็ได้ส่องมายังดินแดนที่ถูกทอดทิ้งอีกครั้ง
เทวทูตมืดและผู้ไล่ล่าแสงสว่าง
'ไป เปิดประตูนั่น ข้าอยากเห็นว่าแสงอาทิตย์ภายนอกนั้นเป็นเช่นไร...'
ผู้เขียนยังอ่านไม่ถึงตรงนี้ จึงไม่สามารถสรุปเนื้อเรื่องได้
ภาคแปด ฟูล
ผู้เขียนยังอ่านไม่ถึงตรงนี้ จึงไม่สามารถสรุปเนื้อเรื่องได้
ความคิดเห็นผู้รีวิว
ยอดเยื่ยม ยอดเยี่ยมจริงๆ แม้ผมจะยังไม่ได้อ่านสองบทสุดท้าย(งานเยอะ ไม่มีเวลา)แต่ผมกล้าการันตีว่านี่คือนิยายชั้นครูชิ้นหนึ่ง เป็นอันดับหนึ่งในใจของผมตอนนี้ (อันดับสองคือ'คฤหาสต์สยองขวัญของผม' อันดับสามคือ'GODSPEED'ของอาจารย์เอนากะ ทากะบาทาเกะ ปัจจุบันอาจารย์ได้เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองในปี2560 ด้วยวัย29ปี)
ที่มา
- อ่านและสรุปเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น